เที่ยวลพบุรี”ทุ่งทานตะวัน”

20 ก.พ.

สวัสดีครับเมื่อปีใหม่ที่ผ่านมานี้ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวที่จังหวัดลพบุรีมาครับ ที่นั่นอากาศร้อนมากเลยครับ แต่หนาวพอสมควรเลยเวลาตกกลางคืนน่ะ เออ! เข้าเรื่องเลยดีกว่านะครับ คือผมได้ไปทุ่งทานตะวันมาที่นั่นสวยมากเลยครับมันเป็นทุ่งทีใหญ่มากติดกับภูเขาเป็นพื้นที่ปลูกต้นทานตะวันเต็มไปหมดเลย นับไม่ถ้วนเลย เป็นบรรยากาศที่สดใสมากดเลยครับ แม้อากาศค่อนข้างจะร้อนไปหน่อยแต่ก็คุ้มค่าครับกับการไปเยี่ยมชมสักครั้ง มีพวกแมลงเต็มไปหมดเลยครับ สงสัยจะมาผสมเกสรกับดอกทานตะวัน ช่างเป็นภาพความทรงจำที่วิเศษจริงๆครับ พอดีผมเอากล้องไปด้วยเลยถ่ายมาให้คุณดูกัน เผื่อคุณอยากจะไปเที่ยวเพื่อเก็บรรยากาศกับทุ่งทานตะวันอย่างผมบ้าง ผมถ่ายรูปไว้เยอะลย กะจะมาโพสต์ให้เพื่อนๆได้ดูกันแต่ขอเก็บไว้หน่อยนะครับ เหนื่อยกับการต้องมานั่งอับโหลดลงเครื่องและยังมานั่งโพสต์ลง wordpress อีก คงเห็นใจกันนะแต่ก็ใช่ว่าจะใจร้ายเกินไปเอารูปมาแบ่งปันบ้าง หวังว่าคงจะถูกใจกันบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ เอาหละไหนๆแล้วก็พูดถึงทานตะวันแล้วขอคุยถึงประวัติความเป็นมาของมันบ้างละกันครับคุณรู้มั้ยว่า ดอกทานตะวัน ตามจริงแล้วไม่ใช่พืชที่ปลูกในไทยนะครับ แต่เป็นพืชท้องถิ่นของอเมริกากลาง ครับ

ที่เข้ามาได้ประวัติบอกว่ามาในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชครับส่วนคนที่นำเข้ามาเป็นคนเกาหลีนำมาปลูก

ใครที่เป็นผู้ชื่นชอบดอกทานตะวันนะครับจะมีลักษณะ

เป็นคนเชื่อมั่นในตัวเองมาก และถือดีในความรู้ความสามารถของตนไม่น้อย ชอบพึ่งพาตัวเองมากกว่าคนอื่น เป็นคนตั้งเป้าหมายในชีวิตสูง

ส่วนที่ชื่อว่า ดอกทานตะวัน หรือ sun flower นะครับ เพราะเป็นดอกไม้ที่หันหน้าเพื่อสังเคราะห์แสงตามทิศของดวงอาทิตย์ครับจะไม่หันตรงข้ามเด็ดขาด เหมือนกับกำลังรับแสงดวงอาทิตย์ คนไทยจึงตั้งชื่อว่าดอกทานตะวัน

ประโยชน์ก็มีหลายอย่างเลยนะครับ ใช้เป็นยารักษาโรค ใช้เป็นน้ำมันพืช แถมเมล็ดมันยังนำมาทานได้อีก

วันปีใหม่ ไป “วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร”

19 ก.พ.

ปีใหม่2554ครั้งนี้ ผมได้มีโอกาสไปไหว้พระต้อนรับปีใหม่ที่มาถึงเพื่อความสิริมงคลมาครับ ขอแนะนำเลย คุณควรจะมาสักครั้งครับกับวัดนี้ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ครับ เป็นวัดแห่งหนึ่งที่เป็นรู้จักกันอย่างดีครับ ผมว่าทุกคนน่าจะได้ยินชื่อนี้อยู่บ้าง วัดนี้อยู่จังหวัด สระบุรี ครับ  เป็นวัดที่เก็บรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าครับ และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายที่เมื่อท่านไปแล้วจะได้สักการะครับ

ภาพที่ผมถ่ายมาให้ชมครับอาจไม่มากเท่าไรนะครับ หาโอกาสเหมาะๆถ่ายยากมาก คนเยอะมากเลยถ่ายไม่ค่อยสะดวก

วันเปิดบ้านทวีธา”ขายไม้จินตนาการ”

9 ก.พ.

การทำไม้มหัศจรรย์ในงานเปิดบ้านทวีธาในครั้งนี้เป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เพราะต้องอาศัยความพร้อมของคนในห้อง การเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เงินทุน ความเสียสละในการแบ่งเวลาทำงาน การมีฝีมือในการวาดรูปและระบายสีได้ตามต้องการของตนเอง สามารถนำมาเป็นรายได้พิเศษได้ ถ้ามีคนซื้อนะ ซุ้มของม.3/2มีคนซื้อจำนวนไม่น้อยเลยที่เดียวครับ อีกอย่าง ตอนแรกนึกว่าจะขายไม่ได้ซะแล้วครับ ก็ดูวาดแต่ละอันไม่ค่อยสวยสักเท่าไร แต่ก็มีเพื่อนๆ ที่คอยช่วยเหลือซื้อมาประดับตรงที่ห้อยกระเป๋ากันตั้งเยอะ ผมก็ซื้อ3อัน ถือว่าเป็นการช่วยอุดหนุนห้องเรียนของเราเองครับ อันละ5บาท เองครับ ส่วนผู้ที่ต้องการวาดและรายบายสีทางเราก็มีอุปกรณ์พร้อมครับ ที่จะให้คุณวาดและระบายตามใจของคุณ เรามีบริการเคลือบด้วยครับ ผมคาดว่าไม้คงมีเกิน50แผ่นได้ ผมน่าจะถ่ายกันให้เห็นว่ามีเยอะขนาดไหนต้องขออภัยด้วยครับไม่มีกล้องพอดี และยังไม่เคยคิดว่าจะได้ทำรีวิวเรื่องนี้มาก่อนเลยครับ

อุปกรณ์

1.ไม้อัด  2.สี 3.ดินสอ 4.ยางลบ 5.ปากกาเมจิก 6.ปากกาตัดเส้น 7.พวงกุญแจ 8. แล็กเกอร์

วิธีการทำนะครับ

1เตรียมไม้อัดมาตัดเป็นรูปตามต้องการในงานนี้ตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมครับ

2.วาดรูป และลงสี

3.ใช้เมจิกตัดทับอีกครั้ง

4.รอให้สีแห้ง

5.เคลือบแล็กเกอร์ครับ รอให้แห้ง ครั้งแรกพ่นบางๆ แล้วค่อยพ่นอีกทีเป็นคร้งที่สองครับ

ผลที่ได้รับจากการเปิดบ้านทวีธา ที่ช่วยกัน”ไม้จินตนาการ”

1.ฝึกความสามารถของนักเรียนของม.3/2

2.ความสามัคคีของนักเรียนที่ช่วยกันทำจนงานประสบความสำเร็จ

3.ความเสียสละในเลา

4.ได้รับความสนุกสนาน ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์

 

ขอขอบคุณอาจารย์และนักเรียนม.3/2ทุกท่านที่ช่วยกันทำผลงาน ไม้จินตนาการจนประสบความสำเร็จ

งานภาษาไทย (เล่าเรื่องจากภาพ)

8 ก.พ.

 

งานภาษาไทยนี้นะครับเป็นวิชาภาษาไทย ของอาจารย์ กนกศรี มิตรานนท์ ครับ

โดยให้ดูภาพจากด้านบนครับแล้วบรรยาย ออกมา

ผมบรรยายเนื้อเรื่องดังนี้ครับ

วันที่๑ มกราคม ๒๕๕๔ ฉันได้ไปเที่ยวน้ำตกแสงตะวันมาด้วยแหละ แต่จำไม่ได้นะว่าอยู่ที่ไหนกัน จังหวัดไหน พอดีตอนฉันกำลังเดินทางฉันหลับอยู่ในรถ พอตื่นก็เกือบถึงแล้ว ฉันและครอบครัวมาเที่ยวปีใหม่กันที่นี่ น้ำตกแห่งนี้ น้ำตกแสงตะวัน แต่กว่าจะถึงน้ำตกต้องเดินเข้าไปอีกหน่อยนะ พอใกล้ถึงฉันได้ยินเสียงน้ำตกไหลดังโครม คราม เป็นเสียงของน้ำกระทบน้ำหรือน้ำกระทบกรวดหิน เป็นเสียงที่ให้ความสดชื่นจริงๆ

พอไปถึงที่น้ำตกความเหนื่อยจากการเดินทางก็หายไปในทันใดเลยฉันเห็นความแตกต่างอย่างมากมายที่นี่เป็นน้ำตกที่มีความสูงซัก๒๐เมตรได้น้ำที่ไหลจากน้ำตกตกลงมาสู่บนลงล่างมีแสงจากดวงตะวันลอดผ่านให้เห็นเป็นลำแสงออกสีส้มออกนวลๆด้านข้างน้ำตกที่เป็นละอองน้ำเมื่อโดนแสงก็เกิดหักเหเป็นรุ้งกินน้ำ๗ สี ช่างสวยงานเป็นอย่างยิ่ง น้ำที่ตกลงมาก็ไหลเป็นลำธาร น้ำในลำธารใสสะอาดเป็นอย่างมาก ไม่มีขี้ดิน ขี้โคลน เลยแม้แต่นิดเดียว เมื่อสะท้อนกับแสงน้ำก็ใสเป็นประกายเหมือนมีแก้วหรือเพชรอยู่ในน้ำอย่างนั้นแหละ ปลาในนี้มีหลายชนิดมาก ฉันคิดว่าที่ได้ชื่อว่าน้ำตกแสงตะวันคงมาจากความสวยงามของธรรมชาติเหล่านี้นั่นแหละนะ มีพืชนานาชนิดขึ้นอยู่รอบๆของลำธาร มีเสียงนกนาชนิดส่งเสียงร้อง จิ๊บ จิ๊บ ร้องกันเจื้อยแจ้วดังไปทั่วป่าดง เป็นเสียงที่ไพเราเสนาะหูเสียจริง ความรู้สึกที่ฉันมีขณะนั้นเป็นความรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก เหมือนกับว่าที่นั่นเป็นสวรรค์น้อยๆบนโลกมนุษย์เพราะเป็นความสวยงามของธรรมชาติที่ฉันพึ่งจะได้เคยสัมผัสมาก่อน มันทำให้ฉันได้ตระหนักถึงธรรมชาติในปัจจุบันที่กำลังเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา เสื่อมโทรมจากมนุษย์ซึ่งเป็นผู้ทำลายไม่สิ้นสุด ฉันอยากให้มนุษย์ทุกคนมีจิตสำนึกในการรักษาป่า ลำธาร และธรรมชาติต่อไป ทั้งประโยชน์ต่อโลก และตัวเราเอง เพื่อที่จะไม่ให้ธรรมชาติทีสวยงามที่ฉันได้เห็นนี้หรือธรรมชาติที่อื่นๆต้องหายไป

พอดีฉันไม่ได้เอากล้องมา เลยไม่ได้ถ่ายรูป แต่ไม่เป็นไร ฉันวาดรูปเอาก็ได้ ถึงแม้ว่าจะไม่สวยเท่ารูปจริง แต่ก็มีความหมายและสวยงามสำหรับฉัน ฉันเลยเขียนความทรงจำที่มีต่อน้ำตกแสงตะวันนี้ไว้ในไดอารี่นี้เพื่อวันหนึ่งฉันจะกลับมาอ่านอีกรอบเมื่อวันที่ฉันหวนระลึกความหลังของวันวันนี้ ฉันคิดว่าปีใหม่หน้าฉันจะไปที่นั่นอีก แล้วเจอกันนะ “น้ำตกแสงตะวัน”

สิ่งที่ได้นะครับ มันทำให้เกิดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ครับ

ในทีสุดก็อายุ15ปี

8 ก.พ.

เมื่อไม่นานที่ผ่านมาผมได้ไปทำบัตรประจำตัวประชาชนมาครับรู้สึกแปลกๆเหมือนกันที่หลังจากวันนั้น ฉันจะเขียนชื่อนำหน้าจาก ด.ช เป็น นาย แทน รู้สึกแปลกๆเหมือนกันครับ ต่อไปนี้ผมจะไม่สามารถดูการ์ตูนได้แล้วครับ ตอนขึ้นรายการหรือเริ่มตอน จะมีการกล่าวว่า รายการเรื่องนี้เหมาะสำหรับคนอายุเท่าไร ซึ่งการ์ตูนส่วนมาก อายุ15ก็ไม่สมควรดูแล้ว เช่น รายการดิสนีย์คลับ แต่ยังไงผมก็ยังจะดูอยู่ดีนั่นแหละครับ

ตามจริงแล้วผมก็จะเอาบัตรประจำตัวประชาชนมาให้ดูซักหน่อย แต่ไม่สมควรที่จะขึ้นในทางอินเทอร์เน็ต ต้องขออภัยด้วยนะ เพื่อความปลอดภัยต่อตัวผมเองครับ

นี่ก็ถือเป็นการเล่าประสบการณ์ที่ครั้งหนึ่งเกิดขึ้นในชีวิตของผมและทุกๆคนครับผมว่าอีกไม่นานเพื่อนๆก็จะถึงวันนี้ครับ วันที่เราต้องใช้คำนำหน้าว่า “นาย”  ^^

TP E-Learning

8 ก.พ.

สำหรับนักเรียนทวีธาภิเศกครับ บางคนอาจได้ใช้บริการ สื่อการเรียนการสอนฟรีจากเว็บไซต์ของโรงเรียนแล้ว แต่ผู้ที่ไม่เคยโปรดฟังครับเพื่อประโยชน์ของทุกท่านเอง เนื่องจากทางโรงเรียนทวีธาภิเศกเห็นถึงความสำคัญของการเรียนแล้ว โลกในปัจจุบันการเรียนรู้ได้กว้างขวางออกไปสู่นอกห้องเรียน เพื่อให้นักเรียนทวีธาภิเศก ได้มีโอกาสในการเรียนรู้ด้วย ทางโรงเรียนจึงได้เข้าร่วมโครงการ กับHot-itเพื่อให้นักเรียนได้เปิดโลกทัศใหม่ เหมือนกับมีอาจารย์มาสอนอยู่ที่บ้านเลยครับ เหมือนการเรียนส่วนตัวครับกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพียงบ้านของท่านมีคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต ท่านต้องเป็นนักเรียนทวีธาภิเศก รหัสบัตรที่ได้จากโรงเรียน รหัสบัตรนี้มอบให้เป็นกรรมสิทธิ์ของโรงเรียนทวีธาภิเศกเพียงอย่างเดียว ไม่ควรใช้รหัสกับผู้อื่น

หากท่านสนใจและต้องการดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่

http://hot-ed.co.th/register/

หรือ http://taweethapisek.ac.th/taweetha/index.php

ขอบคุณภาพจาก เว็บไซต์โรงเรียนทวีธาภิเศก

เข้าค่ายลูกเสือ(ค่ายธนะรัชต์)

8 ก.พ.

การเข้าค่ายลูกเสีอในครั้งนี้เป็นการฝีกความอดทน ความกล้า ความเอาตัวรอด การเข้าร่วมกิจกรรมได้เป็นอย่างดี ทหารได้ฝีกระเบียบวินัยให้แก่เราเป็นอย่างดีมาก ฝึกให้เรามีความพร้อมต่างๆให้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผมแทบจะอาบน้ำไม่ทัน แปปเดียวเท่าน้นและ เสียงดัง”ปี้ด” แล้วตะโกนบอกให้ออกจากห้องน้ำ การนอนผมรู้สึกว่านอนเบียดกันนิดนึงนะครับ 3คนต่อหนึ่งเตียง ตัวแทบจะออกจากมุ้งแน่ะ สนุกจริงๆ

การทานข้าวเป็นระเบียบมากทุกคนแทบจะไม่พูดกันเลยเอาแต่ตักอาหารเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย หรือด้วยความหิวก็ไม่รู้ ผมกินข้าวอยู่บางตอนก็แทบจะไม่ได้กินเพราะทหารห้ามกินมีคนคุยเยอะ เซงสุดๆเลยครับ

ส่วนกิจกรรมต่างๆที่ทางค่ายจัดไว้ถือว่าสนุกมากเลยทีเดียวครับ มีทั้งโดดหอ ปีนหอ เลื่อนผ่านหอ การพลาง การฝึกการทรงตัว พละกำลัง ไหวพริบ ความกล้า อดทน ได้ทั้งความสนุกต่างๆมากมายเลยครับ

การไปมฤคทายวันเป็นการทัศนะศึกษาที่ดีพอสมควรเลยครับ ได้รู้จักประวัติความเป็นมาของที่พักตากอากาศนี้ ที่นั่นอากาศสบายดี ได้ถ่ายรูปกับเพื่อนเยอะแยะแลยครับ ได้ซื้อของฝากติดไม้ติดมือไปด้วยครับ ช่างสบายจริงๆๆ^^

 

ขอขอบคุณภาพ  จาก อาจารย์ สุรชัย (oonsura.wordpress.com)

หนังสั้น เรื่อง”กล้วยตาก”

8 ก.พ.

 

ความพร้อมในงาน

งานนี้เป็นงานที่แสดงถึงความอุดสาหะเป็นอย่างที่สุดครับเพราะการถ่ายทำครั้งนี้ได้เดินทางไปหลายที่หลายแห่งมากครับคือ

1.กรุงเทพมหานคร(โรงเรียนทวีธาภิเศก หัวลำโพง สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่)

2.สมุทรสาคร (มหาชัย นั่งรถไฟสถานีวงเวียนใหญ่)

3.พิษณูโลก

เป็นการตัดต่อที่ลำบากมากครับเพราะต้องเอาเรื่องทั้ง3เหตุการณ์มาผสมเข้าด้วยกันและมีการเปลี่ยนบทบ้างนิดหน่อยครับแต่การแสดงนี่สิครับช่างน่าอายจริงๆที่่ต้องแสดงนอกสถานที่มีคนมองมากมายเหมือนกับเราเป็นจุดเด่นในสถานที่นั้นๆ แต่ก็สนุกดีครับ ได้ความรู้ ความสามัคคี กันมากจาหนังสั้นเรื่องนี้

มิวสิควิดีโอ Go la la M.3/2

8 ก.พ.

จุดเริ่มต้น

ตอนแรกที่ได้เพลงนี้มานึกว่าจะทำเหมือนในmvของต้นฉบับคือ การเล่นเตะฟุตบอลเข้าโกลแล้วเสร็จ เอาไปตัดต่อ ลงเพลง แล้วก็ใส่youtube แค่นั้นก็เสร็จส่งลิ้งไฟล์ให้oonsura.wordpress.com แต่มันไม่ใช่เลยการทำmv ซักเรื่องและเป็นครั้งแรกด้วยแล้วมันเป็นงานที่ยากและท้าทายมากครับสำหรับผม หลังจากที่ส่งไปแล้วโดนอาจารย์พูดให้คำชี้แนะและวิธีการแก้ไข กลุ่มของผมไมรอช้าครับนำไปแก้ไขถึงแม้ว่ามันจะไม่ค่อยดีมาก แต่มันก็ดีทีสุดแล้วสำหรับผมและเพื่อนๆในกลุ่ม ทุกคนรู้ไหมครับการร้องเพลงที่ว่ายากแล้วการตัดต่อให้คำพูดของเรากับเพลงที่ร้องของจริงทำให้ปากตรงกันมันยากยิ่งกว่า จุดนั้นเพื่อนผมแก้เป็นชั่วโมงแน่ะครับ เราไปถ่ายหลายที่มากครับเหนื่อยแต่ก็คุ้มค่ากับสิ่งที่ลงแรงไปครับ

ผลลัพธ์ที่ได้(คุ้มค่าจริงๆ)

1.ผมได้เห็นความสามัคคีในกลุ่ม และเพื่อนฝูงครับ

2.ผมได้เห็นเพื่อนแท้ครับถึงแม้ว่าจะไม่ได้เรียนกับอาจาย์สุรชัยไม่ได้ซักคะแนนแต่เขาก็ยอมมาช่วยผมแสดงกับเพื่อนคนอื่นจนกลับบ้านจนเย็นกันทั้งหมด

3.ไม่ทิ้งกันครับถึงแม้ว่างานจะหนักสักแค่ไหนแต่เราก็มีเห็นใจกันทำต่อจนงานสำเร็จ

4.ความเสียสละครับ เช่น ผมยอมซื้อลูกฟุตบอล ผมและเพื่อนตอนถ่ายทำจำเป็นต้องสละเวลาที่ต้องเรียนพิเศษมาทำมิคสิควิดีโอนี้ครับ

และอื่นๆอีกมากมายครับ ขอบคุณอาจารย์และเพื่อนๆมากครับถ้าไม่มีทุกคนมิวสิคนี้คงทำไม่สำเร็จแน่

เปิดบ้านทวีธา(ฉันขายน้ำเต้าหูจ้า)

8 ก.พ.

 

ความรู้สึกของการขายน้ำเต้าหู้เมื่อวันเปิดบ้านทวีธา

การขายน้ำเต้าหู้ตามจริงแล้วไม่ได้เป็นความคิดตั้งแต่ต้นในการทำขายในวันเปิดบ้านทวีธาหรอกนะครับ ตามจริงแล้วพึ่งจะคิดได้ในไม่กี่วันก่อนเปิดบ้านทวีธาเอง ผมเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ช่วยขายครับ จำได้แม่นเลย น้ำเต้าหูจากถั่วเหลืองนั้นมีเพื่อนทำมาจากบ้าน นำมาที่โรงเรียนทวีธาภิเศก ตอนที่ผมไปถึงวันเปิดบ้านทวีธา ประมาณ9.15น. ผมก็ได้เข้าไปที่ซุ้ม ในซุ้มมีผู้คนอลม่านเต็มไปหมด พูดได้เลยครับว่าไม่มีที่เดินเลย ผมต้องคลานลงใต้โต๊ะถึงจะเข้าไปที่ซุ้มได้ ผมช่วยเพื่อนขายด้วยนะครับ แต่ส่วนมากผมจะเป็นผู้ซื้อเองซะมากกว่า วันนั้นหมดร่วมร้อยบาทได้เลย การขายน้ำเต้าหู้ตามจริงแล้วนึกว่าอย่างน้อยจะเท่าทุน หรือได้กำไรซักหน่อย แต่น้ำเต้าหูก็หมดไปกับการที่มีอาจารย์มาให้คะแนนความคิดเห็นที่ซุ้มเราก็แจกให้าอาจารย์หรือเพื่อนๆที่ขอลองชิม บางคนในห้องม.3/2 ก็แอบตักน้ำเต้าหู้ใส่ที่ชิมกันว่าเล่น บางคนก็บอกว่ามันน้อยไปไม่รู้รส ไม่ถึงวัน น้ำเต้าหู้หมดได้ยังไงก็ไม่รู้ งงมาก ขนาดผมเป็นคนขายนเนี่ย งงจริงๆ หมดเร็วมาก สงสัยคงอร่อย^^